อาญาสิทธิ์ ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ คว้าชัยในการ เลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เหนือ พงศ์สินธุ์ จาก ประชาธิปัตย์ ผลเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช – สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของกา รเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยที่เข้ามาเป็นอันดับ 1 ได้แก่นาย อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐที่ ได้ 48,701 คะแนน
ตามมาด้วย นาย พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ พรรค ประชาธิปัตย์ 44,632 คะแนน, นาย สราวุฒิ สุวรรณรัตน์ พรรคกล้า 6,216 คะแนน และ ร.ต. อภิรัฐ รัตนพันธ์ พรรคเสรีรวมไทย 2,302 คะแนน
ทั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนร้อยละ 69.38 บัตรเสียร้อยละ 1.66 ไม่ประสงค์ลงคะแนนร้อยละ 1.77 ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมากล่าวขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐ
“ในนามของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอกราบขอบพระคุณอีกครั้ง พรรคพลังประชารัฐ จะทำหน้าที่พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียม ไม่แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความสงบ เกิดความรักความสามัคคีและ ทำให้ประขาชนอยู่ดี กินดี พวกเราครอบครัวพลังประชารัฐจะร่วมกันนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน” พล.อ.ประวิตร กล่าว ทั้งนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกที
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ออกมาเปิดเผยว่าพบ อาวุธ และ อุปกรณ์ จำนวนมากในเป้ของ โตโต้ เพื่อเตรียมใช้ก่อความไม่สงบ ชี้เป็นความผิดซึ่งหน้า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น. และพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกตร. แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุม ที่บริเวณหน้าแยกลาดพร้าว ต่อเนื่องหน้าศาลอาญา รัชดา เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.ต.ยิ่งยศ ได้กล่าวถึงการจับกุมตัวนาย ปิยรัฐ จงเทพ หรือ ‘โตโต้’ แกนนำกลุ่มวีโว่ (WeVo) ที่บริเวณลานจอดรถชั้น 5 บนห้างเมเจอร์รัชโยธิน ว่า นายปิยรัฐ กับพวกได้นัดหมายในพื้นที่ดังกล่าว และมีการนำอาวุธและสิ่งของมาใช้เพื่อก่อความไม่สงบ
ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าพบ หนังสติ๊ก 15 อัน หัวน็อต 50 ชิ้น ลูกแก้ว 300 ลูก ระเบิดควัน 30 ลูก ถุงน้ำปลาร้า 30 ถุง หมวกกันกระแทก 13 ใบ เสื้อเกราะ 37 ตัว ท่อเก็บแก๊สน้ำตา 1 อัน ค้อนเหล็ก 1 อัน และโล่ 1 อัน ในกระเป๋าเป้และได้ทำการยึดของกลางพร้อมควบคุมตัว โตโต้
ขณะแล่นออกจากห้างเมเจอร์รัชโยธินได้พบกับกลุ่ม REDEM และกลุ่มการ์ดราษฎร ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ต่อสู้และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทุบรถผู้ต้องหาและพังประตูรถด้านหลังทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้บางส่วน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวและนำส่งตชด.ภ.1 ได้ 18 คน
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ทั้งนี้ในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 7 นาย โดย 6 นายยังคงพักรักษาที่รพ.ตำรวจ มีรถควบคุมผู้ต้องหาเสียหาย 9 คัน เป็นรถควบคุมผู้ต้องหา 3 คัน รถกระบะ 1 คัน รถบรรทุก 2 คัน รถบัส 3 คัน
ต่อมาผู้ต้องหาที่ได้รับการช่วยเหลือให้หลบหนีไปบางส่วนได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน 27 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยบช.น. จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้กระทำความผิดในส่วนให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทำลายทรัพย์สินราชการ และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
‘ส.ศิวรักษ์’ ให้กำลังใจขบวน เดินทะลุฟ้า เดินไล่เผด็จการ
ส.ศิวรักษ์ เดินทางให้กำลังใจ ขบวน เดินทะลุฟ้า กิจกรรมเดินไล่เผด็จการ ก่อนเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯ วอนผู้ชุมนุมเดินขบวนอย่างสันติ เดินทะลุฟ้า – เพจเฟซบุ๊กของนาย สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ส.ศิวรักษ์ ได้เดินทางมาให้กำลังใจขบวน #เดินทะลุฟ้า กิจกรรมเดินขบวนไล่เผด็จการ จาก จ.ปทุมธานี เคลื่อนพลเข้า จ.กรุงเทพมหานคร
ซึ่งกิจกรรมนี้มี นายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน บุญภัทรรักษา พร้อมด้วย นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก แกนนำคณะราษฎร เข้าร่วมด้วย
นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลไหนที่ไม่ให้พูดอย่างอิสรเสรีรัฐบาลนั้นเป็นรัฐบาลอัปรีย์ เป็นรัฐบาลจังไร เพราะฉะนั้นการที่ท่านทั้งหลายออกมาเดินขบวนขอให้เดินขบวนด้วยสันติอดทนเพราะว่าเราจะต้องเอาชนะพวกทรราชให้ได้ แม้ว่าขบวนการของเราอาจจะไม่ใหญ่โตไม่มาก
แต่ทุกคนที่มาร่วมมีธรรมะเป็นพื้นฐาน อย่าลืมว่าสมัยนี้เราทำอะไรทั่วโลกรู้หมดเลย เพราะฉะนั้นอย่านึกว่าเราจะมีจำนวนน้อย คนจำนวนน้อยคือคนที่ต้องสู้ เสียสละด้วยความยินดีเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนทั้งหลาย ตนเอาใจช่วยขอให้เดินทางด้วยความอดทน อัปรีย์จะต้องไปจังไรจะต้องแพ้
ทั้งนี้ การเดินทางมีการถือธงแดง และมีป้ายข้อความต่างๆ เช่น รัฐสวัสดิการแบบทั่วหน้า เราไม่ต้องการรัฐสวัสดิการแบบชิงโชค, ปล่อยเพื่อนเรา และต้องไม่เจ็บเพิ่ม, ลดความเหลื่อมล้ำ คืนความเป็นธรรมให้ประชาชน โดยการเดินจะแวะพักทุกๆ 4 กิโลเมตร ระยะทางทั้งหมดรวมกว่า 26 กิโลเมตร
แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร